วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

วิชา ภาษาไทย

ภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการคิด


 ประเภทการคิดที่จำเป็น  การสอนภาษาไทยเพื่อพัฒนาทักษะการคิด  วัตถุประสงค์หลัก คือ เพื่อให้นักเรียนรู้ภาษาไทยอย่างมีความหมาย  และรู้หลักเกณฑ์ทางภาษาไทยไปพร้อมๆกับ  การพัฒนาทักษะการคิด  การคิดที่ควรสอนนักเรียนในช่วงวัยนี้  ได้แก่
                    1.  การคิดเชิงมโนภาพ  นักเรียนสามารถฝึกทักษะการใช้มโนภาพ  หรือจินตนาการ  เพื่อประโยชน์ในการคิดสร้างสรรค์  แก้ปัญหา  พร้อมๆกับการเรียนรู้ภาษาไทยไปพร้อมๆกัน  โดยใช้กิจกรรมต่างๆ  เช่น
  -  นำรูปภาพภาพหนึ่งมาให้ดู แล้วลองจินตนาการว่า "ถ้านักเรียนอยู่ในภาพนั้นด้วยจะเป็นอย่างไร" แล้วให้นักเรียนออกมา เล่าเรื่อง ตามจินตนาการของตน  เช่นเมื่อดูภาพสวนสนุก  นักเรียนอาจบรรยายถึง  ความสนุกในการเล่นเครื่องเล่นต่างๆได้ไปเที่ยวกับใคร ทำอะไรบ้าง เป็นต้น ซึ่งก็จะได้ฝึกฝนในเรื่องของการใช้ภาษาในการพูด  การลำดับใจความสำคัญ  การใช้ศัพท์และรูปประโยคต่างๆด้วย
   -  เล่นเกม "ถ้า....หายไป  อะไรจะเกิดขึ้น? "  (อาจเป็นพยัญชนะตัวใดตัวหนึ่ง หรือสระตัวใดตัวหนึ่ง) ซึ่งเมื่อ....หายไปจะทำให้ความหมายของคำนั้นเปลี่ยนไปอาจจะให้เด็กออกมาทำท่าทาง หรืออธิบายตามมโนภาพของตนเอง อันจะช่วยให้นักเรียนรู้ในการเขียนสะกดคำให้ถูกต้อง เช่นประโยค  "แม่ฉันชอบกินข่าอ่อนๆ" ถ้า "ไม้เอก" หายไปเป็น "แม่ฉันชอบกินขาอ่อนๆ" อะไรจะเกิดขึ้น? คำว่า  "หมางเมิน" ถ้า "ง" หายไปอะไรจะเกิดขึ้น ?
                2.  การคิดเชิงวิเคราะห์  นักเรียนสามารถจำแนกแยกแยะองค์ประกอบของสิ่งต่างๆได้  โดยกิจกรรม  เช่น - ให้นักเรียนอ่านนิทานสั้นๆ แล้วให้ตอบคำถาม  ใคร  ทำอะไร  ที่ไหน  เมื่อใด  อย่างไร  เพราะเหตุใด
   -  เลือกสิ่งของที่เป็นธรรมดาๆ  มาเป็นเรื่อง  เช่น  หมวก  ร่ม  รองเท้า  กระเป๋าหนังสือ  แล้วให้ลองเขียนรายการเรื่องราวของสิ่งที่ดูธรรมดาๆนั้น  ครูอาจช่วยโดยตั้งคำถาม  เช่น  ชนิดของหมวก  หรือร่ม  หรือรองเท้า  ใครเป็นผู้ใช้  ทำไมจึงใช้  และสิ่งของนั้นทำจากอะไร
   - ตัดข่าวหรือเหตุการณ์สั้นๆ  มาให้อ่าน  แล้วให้นักเรียนพูดคุยหรือเขียนรายละเอียดของเรื่องนั้นๆ  แล้วเขียนคำที่แสดงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆเกี่ยวกับเรื่องที่อ่านนั้นมากที่สุด  ตัวอย่างคำ  เช่น  ตื่นเต้น  สงสัย  ตกใจ  เศร้าใจ  เห็นใจ  ประทับใจ  อยากลอง  คับแค้นใจ ฯลฯ
                 3.  การคิดสร้างสรรค์    ให้นักเรียนมีจิตนาการอย่างอิสระในการใช้ภาษา  มีจินตนาการในการแสดงออก  มีจินตนาการในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ  ครูต้องไม่เคร่งครัดเรื่องความผิดความถูกมากกว่า  การให้นักเรียนได้แสดงออกอย่างอิสระ  ตามความคิดของตน  โดยจัดกิจกรรม เช่น
          - การเขียนนิทานสั้นๆ และการวาดภาพประกอบ
         - การแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 2-3 คน ให้ค้นหาคำที่ครูกำหนด  เช่น
           คำที่ลงท้ายด้วย....ในหนังสือหน้าใดหน้าหนึ่งออกมาให้ได้มากที่สุด  เมื่อได้แล้วให้ลองแต่งเรื่องราวจากคำเหล่านั้น         - ให้นักเรียนฝึกอ่านหนังสือจากกระจก หรืออ่านแข่งกันโดยมองจากด้านบน ซึ่งเป็นการฝึกให้ทำในสิ่งที่นอกกรอบ แปลกใหม่และไม่เคยทำมาอาก่อน นักเรียนจะสนใจและเพลิดเพลินในการเรียนรู้
         - เขียนคำ ธรรมดาๆ 1 คำบนกระดานดำ ให้นักเรียนคิดคำอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับคำบนกระดานนั้นออกมาให้ได้มากที่สุด ในเวลา 2 นาที เช่น คำว่า น้ำ บ้าน ถนน  มีคำอะไรบ้างที่เกี่ยงโยงถึงคำนั้นๆ ได้ เป็นต้น
                4.  การคิดเชิงเปรียบเทียบ นักเรียนสามารถเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสิ่งต่างๆได้  โดยกิจกรรม  เช่น
         - ค้นหาความแตกต่างระหว่างชุดคำ 2 ชุด  ที่ดูคล้ายๆ  เช่น
           ชุดคำที่สะกดด้วยแม่  กก  ซึ่งแต่ละชุดมีตัวสะกดแม่อื่นๆแทรกมาด้วย  แล้วให้นักเรียนดึงคำที่แตกต่างออกมา
         - ให้นักเรียนคิดเปรียบเทียบเรื่องราว เหตุการณ์ ตัวละคร คำพูด เป็นต้น
         - นำเก้าอี้สามขาและเก้าอี้สี่ขามาตั้งหน้าห้อง ให้สังเกตดู แล้วจดทุกสิ่งที่เกี่ยวกับเก้าอี้ 2 ตัวนั้น เปรียบเทียบกัน ทั้งความเหมือนและความต่าง
                5.  การคิดเชิงวิพากษ์   การคิดเชิงวิพากษ์จะเป็นประโยชน์ในการใช้วิจารณญาณ  ใคร่ครวญสิ่งที่เห็น  ประเมินได้ว่าสิ่งนั้นๆ ผิดหรือถูกอย่างไร เช่น
        - ให้คำ ข้อความ หรือประโยคสั้นๆ มาชุดหนึ่ง ซึ่งคละกันทั้งที่ผิดหือถูก ให้นักเรียนอ่าน และพิจารณาว่า ถูกหรือผิด ถ้าผิด ผิดเพราะอะไร และจะแก้ไขอย่างไร
        - อ่านข่าว หรือการ์ตูนสั้นๆให้นักเรียนฟัง และแบ่งกลุ่มให้แสดงความคิดเห็น
                 6.  การคิดเชิงมโนทัศน์
          นักเรียนสามารถคิดรวบยอดได้  พร้อมๆกับมีความรู้ทางภาษาไทยด้วย  โดยอาจใช้กิจกรรม เช่น
         - ให้ภาพภาพหนึ่งให้นักเรียนตั้งชื่อภาพนั้นแล้วเขียนบรรยายหรือแต่งเป็นเรื่องราวอย่างสั้นๆ         - ให้อ่านข้อความสั้นๆแล้วให้บอกว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร หรือหาใจความสำคัญของเรื่อง
         - ฝึกให้จัดหมวดหมู่ โดยให้ชุดคำที่มีตัวสะกดในมาตราต่างๆมาชุดหนึ่ง แล้วให้นักเรียนแยกคำเป็นหมวดหมู่ตามตัวสะกดแต่ละมาตรา  ฯลฯ
                  7.  การคิดเชิงสังเคราะห์  การฝึกคิดสังเคราะห์ในเชิงภาษา  อาจนำมาใช้ในเรื่องของการรวมคำ  และการสะกดคำ  เช่น
          - ให้อักษรหรือพยัญชนะและสระที่กระจัดกระจายมาชุดหนึ่ง แล้วให้นักเรียนสร้างคำใหม่ จากตัวอักษรที่กระจัดกระจายเหล่านั้น
          -จัดเรียงลำดับคำ หรือภาพที่วางสลับกันเป็นปริศนาให้เป็นเรื่องราวต่อเนื่อง         นักเรียนในวัยนี้ควรเรียนรู้ภาษาไทยและพัฒนาทักษะการคิดไปพร้อมๆด้วยกันอย่างสนุกสนานตัวอย่างการคิดและกิจกรรมเหล่านี้ สามารถนำมาเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการคิดหรือจัดทำแบบฝึกเพิ่มเติมได้       นอกจากพัฒนานักเรียนด้านการคิดแล้ว  สิ่งที่ควรทำตามไปด้วยกัน  คือการฝึกทักษะอื่นๆ  เช่น      การพัฒนาการทำงานกลุ่ม  การพัฒนาระเบียบวินัย  การทำกิจกรรมที่ต้องใช้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ  และการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม  ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงบูรณาการที่จะช่วยให้นักเรียนได้พัฒนาทั้ง  ด้านร่างกาย  สติปัญญา  อารมณ์  และสังคมไปพร้อมๆกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น